เรื่องกลิ่นตัวอาจจะเกิดขึ้นกับบางคน โดยเฉพาะสาวๆ ที่ทำงานแบบต้องใช้แรงงานหนักๆ หรือสาวอ้วนที่มีเอเสียดสีกันเวลาเดิน ยิ่งในอากาศร้อนๆ บางทีก็เหงื่อซึมกลางหลังรวมทั้งบริเวณใต้วงแขนซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะเกิดกลิ่นเหงื่อที่แสนจะเหม็นอับเช่นนี้ บางคนใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายก็พอจะเอาอยู่ในระหว่างวันแต่บางคนใช้อะไรก็เอาไม่อยู่ เคยสงสัยไหมว่าทำไมกลิ่นตัวของคุณรุนแรงกว่าคนรอบข้าง มาดู 5 เหตุผลที่ทำให้คุณเกิดกลิ่นตัวอันรุนแรงกันดีกว่า
1.กลิ่นตัว มาจากเหงื่อ?
เหงื่อธรรมดาๆ ไม่ได้มีกลิ่น แต่ที่เหงื่อมีกลิ่น มาจากเหงื่อที่ผสมกับจุลินทรีย์ และแบคทีเรียที่อยู่ตามผิวหนัง ส่วนเหงื่อที่มาจากต่อมเหงื่อที่ชื่อว่า Apcocrine sweat gland เป็นเหงื่อที่มีลักษณะใสๆ มีความเหนียวเหนอะหนะและมีกลิ่นที่รุนแรงโดยต่อมเหงื่อชนิดนี้จะอยู่บริเวณ รักแร้ ขาหนีบ ใต้ราวหน้าอก ใบหู
2.กลิ่นตัวมาจากอาหารรสจัด
ไม่ว่าจะเป็นอาหารเผ็ดจัด เค็มจัด เปรี้ยวจัด หรืออาหารที่มีส่วนผสมของเครื่องเทศกลิ่นแรงอย่าง กระเทียม หัวหอม ข่า ตะไคร้ เครื่องแกงกะหรี่ พริก แม้แต่ ทุเรียน สะตอ ชะอม ฯลฯ อาหารเหล่านี้มีส่วนเพิ่มดีกรีกลิ่นตัวมากกว่าคนที่ไม่ได้ทานแถมรสชาติเผ็ดร้อนยังเป็นการขับเหงื่อออกมาเพิ่มขึ้น
3.น้ำหนักเกินมาตรฐาน
คนอ้วนส่วนใหญ่มักมีกลิ่นตัวแรง เพราะอ้วนจะมีโอกาสที่อวัยวะภายนอกมีส่วนอับชื้น สร้างกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามรักแร้ ชั้นพุง ขาหนีบ ข้อพับต่างๆ ได้มากกว่าคนผอม แถมต่อมเหงื่อตามรักแร้ ขาหนีบ ยังผลิตเหงื่อออกมามากกว่าคนผอมอีก
4.อาหารมัน อาหารทอด
อาหารมัน อาหารทอด เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน แถมยังกระตุ้นการทำงานของต่อมเหงื่อบริเวณรักแร้ ขาหนีบให้มีกลิ่นอีกด้วย
5.ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่ไม่เหมาะ
การใช้โรลออน ลูกกลิ้ง หรือสเปรย์ระงับกลิ่นตัว หากใช้ไม่ถูกกลิ่นจะยิ่งทำให้ฉุนหรือเหม็นมากขึ้น และหากเป็นคนเหงื่อเยอะอยู่แล้ว เมื่อทาโรลออนอาจทำให้กลิ่นหอมของโรลออนผสมกับกลิ่นตัว ทำให้มีความแรงของกลิ่นเพิ่มขึ้น
เมื่อทราบสาเหตุดังกล่าวที่ทำให้เกิดกลิ่นเหงื่อแล้ว ลองหาทางแก้ไขดูว่าคุณจะปรับปรุงตัวเองไม่ให้เกิดกลิ่นเหล่านี้อีกได้อย่างไร??