สาเหตุของการปวดประจำเดือน คือความไม่สมดุลของกลุ่มสารพรอสตาแกลนดินในร่างกาย ซึ่งมีผลต่อเลือดที่มาเลี้ยงมดลูก หรืออาจเกิดจากภาวะเส้นประสาทที่ไวต่อสารในกลุ่มพรอสตาแกลนดินมากเกินไป ทำให้เกิดความผิดปกติในการหดรัดตัวของกล้ามเนื้อมดลูก จึงส่งผลให้เกิดการปวดประจำเดือนได้ โดยอาการปวดมักจะเกิดขึ้นในช่วง 2 วันแรกของการมีประจำเดือน และมักจะปวดบีบเป็นพักๆ บริเวณท้องน้อย และอาจร้าวไปตามส่วนต่าง ๆ และอาจจะมีอาการ คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียน การรักษาการปวดประจำเดือน สามารถบรรเทาให้ดีขึ้นด้วยการใช้ 4 สมุนไพรตามนี้
การใช้ส่วนของหัวว่านชักมดลูก มาล้างให้สะอาด จากนั้นนำมาฝานเป็นแว่นบางๆ 7-10 แว่น เติมน้ำลงไปต้มให้เดือด แล้วนำน้ำมาดื่มครั้งละ 1 แก้ววันละ 2-3 ครั้ง จะช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนทุเลาลงได้
เพราะอุดมไปด้วยวิตามินบี 12 และมีกรดโฟลิคสูง จึงมีผลต่อการดูแลสุขภาพของผู้หญิงโดยตรง ซึ่งจะช่วยในการบำรุงเลือดได้อย่างดี เมื่อทานเป็นประจำจะช่วยลดอาการปวดท้องจากประจำเดือน และช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ อีกทั้งยังช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนของผู้หญิงได้อีก โดยวิธีใช้ตังกุยต้มกับน้ำดื่มครั้งละ 5-15 กรัม ดื่มวันละ 3 ครั้ง
ใบข่อย 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 2-3 ถ้วย เติมข้าวเปลือกลงไป 1 หยิบมือ แล้วต้มให้เดือดนาน 1/2-1 ชั่วโมง ให้ดื่มครั้งละ 1/2-1 แก้ว ตอนที่ปวดประจำเดือน หรือจะนำใบข่อยตากแห้ง แล้วคั่วให้หอม นำมาชงกับน้ำร้อนเป็นชา กินต่างน้ำเป็นประจำก็ช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้
ใช้ต้นและรากตระไคร้สด 1 กำมือ นำมาล้างให้สะอาด ก่อนจะหั่นบาง ๆ แล้วนำมาผึ่งแดดให้แห้ง จากนั้นใช้ชงเป็นชากับน้ำร้อนเพื่อดื่มต่างน้ำ จะช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือน ได้เป็นอย่างดี