โภชนาการ | 2017-08-02 13:56:05

แมกนีเซียม อาหารเสริมป้องกันไมเกรน

LINE it!

แมกนีเซียม คืออะไร?

แมกนีเซียม (Magnesium) เป็นแร่ธาตุสำคัญที่จำเป็นในร่างกาย โดย 67% พบอยู่ในกระดูกและฟันและอยู่ในรูปเกลือแมกนีเซียมฟอสเฟตหรือแมกนีเซียมคาร์บอเนต 31% เป็นองค์ประกอบภายในเซลล์กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อต่างๆ (Intracellular fluid) และอีก 2% จะละลายอยู่ในเลือด (Extracellular fluid)

แมกนีเซียม มีหน้าที่อะไร?

เป็นองค์ประกอบของกระดูกและฟัน ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน

ช่วยในการคลายตัว (Relaxation) ของกล้ามเนื้อแขนขา และควบคุมการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจให้เป็นปกติ

ช่วยในการทำงานของเอนไซม์ (Co-factor) ในกระบวนการสร้างโปรตีน

ช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ (Co-factor) ในปฏิกิริยาการสร้างพลังงานของเซลล์ร่างกาย (Oxidative phosphorylation) เช่น การเผาผลาญน้ำตาล เป็นต้น

ช่วยในการการบีบตัวของกล้ามเนื้อลำไส้ ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก

มีหน้าที่ควบคุมการส่งกระแสประสาทในสมอง ทำให้ระบบประสาททำงานได้ปกติ

แมกนีเซียม เกี่ยวข้องกับโรคไมเกรนอย่างไร?

ในผู้ป่วยไมเกรนจะพบภาวะขาดแร่ธาตุแมกนีเซียม (Magnesium deficiency) จนทำให้มีระดับแมกนีเซียมในเลือดต่ำ (hypomagnesemia) จึงมีระดับแมกนีเซียมในสมองต่ำลงด้วย ส่งผลให้การควบคุมการสร้างและหลั่งสารสื่อประสาทในสมองผิดปกติไป เช่น Substance P ซึ่งทำให้เกิดการส่งสัญญาณที่ผิดปกติไปยังเส้นประสาทที่รับรู้ความเจ็บปวด และ Nitric oxide ที่ทำให้หลอดเลือดสมองขยายตัว จนทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนขึ้น

ภาวะขาดแร่ธาตุแมกนีเซียมนี้ เป็นจุดเริ่มต้นการถูกกระตุ้น (lower threshold) ทำให้สมองถูกกระตุ้นให้เกิด CSD ได้ง่ายยิ่งขึ้น เนื่องจากการมีศึกษาที่สนับสนุนพบว่า แมกนีเซียมมีส่วนช่วยควบคุมการทำงานของตัวรับ NMDA ต่อสาร glutamate (NMDA glutamate receptor) ซึ่งโดยปกติแล้วตัวรับ NMDA นี้มีความสำคัญในการนำส่งสัญญาณความเจ็บปวดเข้าสู่ระบบประสาท ควบคุมระบบไหลเวียนเลือดในสมอง และควบคุมการเกิดและการแพร่กระจายของ CSD ไปทั่วทั้งสมอง ดังนั้นแมกนีเซียมจึงมีผลป้องกันการเกิด CSD จากการเหนี่ยวนำของสาร glutamate ได้

นอกจากนี้ภาวะที่มีระดับแมกนีเซียมในเลือดต่ำ ยังทำให้การควบคุมตัวรับสารสื่อประสาทเซโรโทนิน (serotonin) ในระบบหลอดเลือดสมองผิดปกติไป จนกระตุ้นให้หลั่งสารเซโรโทนินออกมาในสมองมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการหดตัวอย่างรุนแรงของหลอดเลือดสมอง นำไปสู่อาการนำ (prodrome phase) ของการปวดหัวไมเกรน หรือที่เรียกว่า ออร่า (aura) มีงานวิจัยพบว่าการได้รับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแมกนีเซียมสามารถยับยั้งการหดตัวของหลอดเลือดสมองจากสารเซโรโทนินได้ ดังนั้นแมกนีเซียมจึงป้องกันอาการออร่าก่อนการปวดหัวไมเกรนได้

ภาวะแมกนีเซียมต่ำ (hypomagnsemia) เกิดจากอะไร?

การดูดซึมแมกนีเซียมลดลง หรือไม่สามารถดูดซึมได้เลย ซึ่งอาจเกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรมแต่กำเนิด หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของทางเดินอาหาร เช่น ลำไส้อักเสบ เป็นต้น

การขับออกแมกนีเซียมเพิ่มขึ้น จากความเครียด, การดื่มแอลกอฮอล์, การอดอาหาร, การสูญเสียน้ำจากการท้องเสีย, การเสียเหงื่อมากๆ, ช่วงก่อนมีประจำเดือน, การตั้งครรภ์, ภาวะโลหิตจาง, ผู้ป่วยโรคเบาหวาน, โรคไต, โรคหัวใจ, ยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ อย่าง HCTZ หรือ Furosemide , ยา digoxin, ยา amphotericin เป็นต้น

รับประทานอย่างไรจึงจะช่วยป้องกันไมเกรนได้?

จากหลักฐานทางงานวิจัยแนะนำให้รับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแมกนีเซียมขนาด 400-600 มิลลิกรัมต่อวัน โดยในรูปแบบของ magnesium glycinate, magnesium aspartate, magnesium gluconate และ magnesium citrate จะดูดซึมได้ดีกว่ารูปแบบ magnesium oxide, magnesium chloride และ magnesium sulfate

 มีผลข้างเคียงหรือไม่?

การรับประทานแมกนีเซียมเพื่อป้องกันไมเกรนถือว่ามีความปลอดภัยสูงและมีราคาไม่แพง อาจพบมีอาการปวดท้อง ท้องเสีย เหงื่อออก หน้าแดง ได้บ้าง แต่ไม่รุนแรง

ข้อควรระวัง ในผู้ป่วยโรคไต, โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ (heart block), ผู้ที่มีระดับแมกนีเซียมในเลือดสูง (hypermagnsemia) และผู้ที่มีระดับแคลเซียมในเลือดต่ำ (hypocalcemia) ดังนั้นผู้ป่วยโรคดังกล่าวร่วมด้วยควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนจะเริ่มรับประทาน

 อาหารที่มีแมกนีเซียมสูง

  1. ผักโขม สุก 1 ถ้วยตวง มีแมกนีเซียม 157 มิลลิกรัม
  2. ผักกาดก้านแดง สุก 1 ถ้วยตวง มีแมกนีเซียม 150 มิลลิกรัม
  3. ถั่วดำ สุก 1 ถ้วยตวง มีแมกนีเซียม 120 มิลลิกรัม
  4. ถั่วเขียว สุก 1 ถ้วยตวง มีแมกนีเซียม 97 มิลลิกรัม
  5. ถั่วอัลมอนด์ 1/4 ถ้วยตวง มีแมกนีเซียม 97 มิลลิกรัม
  6. เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ 1/4 ถ้วยตวง มีแมกนีเซียม 90 มิลลิกรัม
  7. มันฝรั่ง 1 หัวใหญ่ มีแมกนีเซียม 85 มิลลิกรัม
  8. เมล็ดฟักทอง 1/4 ถ้วยตวง มีแมกนีเซียม 42 มิลลิกรัม
  9. อะโวคาโด ดิบ 1 ลูก มีแมกนีเซียม 39 มิลลิกรัม
  10. กล้วย 1 ลูก มีแมกนีเซียม 37 มิลลิกรัม
  11. บรอกโคลี่ สุก 1 ถ้วยตวง มีแมกนีเซียม 32 มิลลิกรัม
  12. กะหล่ำดาว สุก 1 ถ้วยตวง มีแมกนีเซียม 32 มิลลิกรัม

เอกสารอ้างอิง

  1. Mauskop A, Varughese J. Why all migraine patients should be treated with magnesium. Journal of Neural Transmission. 2012;119(5):575-579.
  2. Should You Be Taking Magnesium Supplements? [Internet]. Dr. Axe. 2017 [cited 19 July 2017]. Available from: https://draxe.com/magnesium-supplements/
©2017 PharmRoo.com | Powered by WordPress | Developed by chaivoot