ชุมเห็ดเทศ (Senna alata) สมุนไพรไทยที่ใช้กันมานาน และแพร่หลาย มีสรรพคุณทางยามากมาย เช่น รักษาอาการท้องผูก มีฤทธิ์เป็นยาระบาย จากสารแอนทราควิโนน (Anthraquinone) โดยใช้ส่วนดอก 1-3 ดอกมาต้ม รับประทานจิ้มกับน้ำพริก หรือสามารถใช้ใบสด 8-12 ใบ ล้างให้สะอาด แล้วนำไปตากให้แห้ง ใช้ต้มหรือชงดื่มได้ โดยอาจทำให้เกิดอาการมวนท้องได้จากการกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้
นอกจากนี้ชุมเห็ดเทศยังสามารถใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนัง กลากเกลื้อน และรักษาฝีได้ เนื่องจากมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อราและแบคทีเรียบางชนิดได้อีกด้วย
ชื่อสมุนไพร: ชุมเห็ดเทศ
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Senna alata (L.) Roxb.
ชื่อวงศ์: Fabaceae
ชื่ออื่นๆ: Candle bush, Ringworm bush, ขี้คาก, ชุมเห็ดใหญ่, ตะสีพอ, ลับมืนหลวง, หมากกะลิงเทศ
ไม้พุ่ม สูง 1-3 เมตร แตกกิ่งออกด้านข้างในแนวขนานกับพื้น ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับกัน ใบย่อยรูปขอบขนาน รูปวงรี หรือรูปไข่กลับ ใบกว้าง 3-7 เซนติเมตร ยาว 6-15 เซนติเมตรใบค่อนข้างหนา และเหนียว หูใบเป็นรูปสามเหลี่ยม ดอกช่อ ออกที่ซอกใบ ตอนปลายกิ่ง กลีบดอกสีเหลืองทอง ใบประดับสีน้ำตาลแกมเหลืองหุ้มดอกย่อยเห็นชัดเจน ผลเป็นฝัก มี 4 กลีบ เมล็ดแบน รูปสามเหลี่ยม
ชุมเห็ดเทศมีสารแอนทราควิโนน (anthraquinone glycoside)หลายชนิด เช่น aloe – emodin , chrysophanol , emodin , rhein isochrysophanol, physcion-l-glycoside, chrysophanol, 4,5-dihydroxy-2-hydroxy methylanthrone, และ 4,5-dihydroxy-1-hydroxy methylanthrone และสารกลุ่มแทนนิน สารฟลาโวนอยด์
มีฤทธิ์เป็นยาระบาย (Laxative activities)1
ชุมเห็ดเทศมีส่วนประกอบที่สำคัญจำพวก anthraquinone glyocoside ซึ่งเป็นรูปที่ไม่มีฤทธิ์ โดยหลังจากรับประทานเข้าสู่ร่างกายถูกเปลี่ยนแปลงโดยเอนไซม์ Beta-glucosidase และ reductase ซึ่งเป็นรูปที่ออกฤทธิ์ กระตุ้นให้เกิดการบีบตัวของลำไส้ มีผลทำให้เกิดการถ่ายอุจจาระใน 6-8 ชั่วโมงหลังรับประทาน
มีฤทธิ์ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (Antimicrobial activities)2,3
สารสกัดจากใบชุมเห็ดเทศ โดยใช้แอลกอฮอล์มีคุณสมบัติในการต้านเชื้อรา โดยสามารถฆ่าต้านเชื้อรา dermatophyte ที่เป็นสาเหตุของโรคกลากได้หลาย species สำหรับเชื้อ Trichophyton mentagorphyes var. Interdigitale, Trichophyton rubrum และ Microsporum gypseum มีค่า MIC 125 mg/ml และสำหรับเชื้อ Microsporum canis มีค่า MIC 62.5 mg/ml แต่สารสกัดชุมเห็เทศมีฤทธิ์ต้านเชื้อรากลุ่ม non-dermatophyte ได้ต่ำ โดยกลไกลการต้านเชื้อราสันนิษฐานว่าเกิดจากการทำให้เซลล์มีรู และเกิดการรั่วไหลของสารในเซลล์ โดยสังเกตจากรูปร่างเซลล์ที่ผิดปกติไป รอยเหี่ยวของเซลล์
สารสกัดจากใบและเปลือก (bark) ชุมเห็ดเทศโดยใช้น้ำและ ethanol โดยพบว่าสารสกัดจากเปลือกไม้ชุมเห็ดเทศ มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อรา Candida albicans แต่ไม่พบฤทธิ์ดังกล่าวนี้จากสารกัดจากใบ ส่วนคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรีย พบว่าสารกัดจากใบชุมเห็ดเทศสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ S. aureus ได้ และยังพบว่าทั้งสารสกัดจากใบและเปลือกชุมเห็ดเทศต่างสามารถยับยั้งเชื้อ E.coli ได้
รักษาอาการท้องผูก เป็นยาระบาย รักษาแผลฝีพุพอง กลากเกลื้อน ขยับพยาธิ
ส่วนที่นำมาใช้: ใบ, ดอก, เมล็ด
ยาระบาย ยาถ่าย แก้อาการท้องผูก
ใช้ดอกชุมเห็ดเทศสด 1-3 ช่อดอก (หรือแล้วแต่คนที่ธาตุเบาธาตุหนัก ช่อดอกใหญ่หรือเล็ก) ต้มรับประทานจิ้มกับน้ำพริก หรือ ใช้ใบสด 8-12 ใบ ล้างให้สะอาด หั่นตากแห้ง หรือปิ้งไฟให้เหลือง หั่น ใช้ต้มหรือชงน้ำดื่ม ครั้งละ 1 ถ้วยแก้ว เติมเกลือเล็กน้อย ดื่มให้หมด หรือใช้ใบแห้งบดเป็นผง ปั้นกับน้ำผึ้งเป็นลูกกลอนขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย รับประทานครั้งละ 3 เม็ด ก่อนนอน หรือเมื่อมีอาการท้องผูก หรือ ใช้เมล็ด คั่วให้เหลือง ชงน้ำดื่มเป็นน้ำชา เป็นยาระบายอ่อนๆ
รักษาโรคผิวหนัง กลากเกลื้อน
ใช้ใบสด 3-4 ใบย่อย ขยี้หรือตำในครกให้ละเอียด เติมเกลือเล็กน้อย หรือใช้ใบชุมเห็ดเทศกับหัวกระเทียมปริมาณเท่ากัน ผสมปูนแดงที่กินกับหมากนิดหน่อย ตำผสมกันทาบริเวณที่เป็นกลาก หรือโรคผิวหนัง โดยเอาผิวไม้ไผ่ขูดบริเวณที่เป็นกลากเบาๆ แล้วทายาวันละ 2 ครั้ง เช้าเย็นจนกว่าจะหาย หายแล้วทาต่ออีก 7 วัน
รักษาฝีและแผลพุพอง
ใช้ใบชุมเห็ดเทศ และก้านสด 1 กำมือ ต้มกับน้ำพอท่วมยาแล้วเคี่ยวให้เหลือ 1 ใน 3 ชะล้างบริเวณที่เป็นวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ถ้าเป็นมากให้ใช้ประมาณ 10 กำมือ ต้มอาบ
การศึกษาทางพิษวิทยา4
จากการทดสอบการเกิดพิษเฉียบพลัน (Acute toxic) ของสารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยน้ำ ในหนูทดลอง ขนาด 250, 500 and 1000 mg/kg นาน 14 วัน (คิดเป็น 3,333 เท่า เปรียบเทียบกับขนาดรักษาในคน) ไม่พบอาการเป็นพิษใดๆ
สมุนไพรแต่ละชนิด ต่างก็มีทั้งประโยชน์และโทษในตัวของมันเอง รู้อย่างนี้แล้ว ใช้แต่พอดี ควบคู่กับการดูแลสุขภาพใ้ห้แข็งแรงอยู่เสมอดีกว่า