
ปัญหาสุขภาพอย่างหนึ่งที่เป็นเฉพาะผู้หญิงและสร้างความกังวลก็คือตกขาว ซึ่งอาการของตกขาว เป็นของเหลวหรือมูกที่ถูกขับออกมาจากช่องคลอดของผู้หญิง ปกติไม่มีกลิ่นและอาจมีสีที่แตกต่างกันออกไป ในขณะมีอาการตกขาวจะไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ มักเกิดขึ้นตามรอบประจำเดือนหรือหลังประจำเดือนหมด หากมีอาการตกขาวที่แตกต่างไปกว่านี้ก็ถึงเวลาที่ต้องหันมาใส่ใจกันมากขึ้น
สาเหตุของอาการตกขาว
ตกขาวปกติตามธรรมชาติ คือ ตกขาวที่ไม่มีกลิ่น ไม่มีอาการคันที่ช่องคลอด ส่วนตกขาวที่ผิดปกติ อาจเกิดจากเชื้อไวรัส หลังการติดเชื้อเริมจากการมีเพศสัมพันธ์ มีกลิ่นเหม็นคาว มีตุ่มใสที่อวัยวะเพศ หรือตกขาวจากเชื้อแบคทีเรีย สีเหลืองออกเขียว มีกลิ่นเหม็นคาวมาก มีอาการปัสสาวะติดขัด แสบเวลาปัสสาวะ ส่วนตกขาวจากเชื้อรา มีลักษณะเป็นมูกหรือเป็นก้อนสีขาว เกิดจากการสวนล้างช่องคลอดบ่อยๆ ปล่อยให้ช่องคลอดและอวัยวะเพศอับชื้น
การป้องกันการเกิดตกขาว
1.ทำความสะอาดอวัยวะเพศด้วยน้ำสะอาด หรือสบู่อ่อนๆ ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง ไม่สวนหรือล้างช่องคลอด สารเหล่านี้จะทำลายสมดุลกรด-ด่างที่ช่องคลอดทำให้ระบบการป้องกันการติดเชื้อตามธรรมชาติของร่างกายให้เสียไป
2.หลังอาบน้ำควรเช็ดทำความสะอาดอวัยวะเพศให้แห้ง เพื่อลดการอับชื้นเป็นสาเหตุของเชื้อรา
3.หลังปัสสาวะหากเช็ดอวัยวะเพศให้เช็ดจากบริเวณส่วนหน้าไปหลังแล้วทิ้งกระดาษชำระ ไม่เช็ดย้อนกลับไปมา เพราะจะเป็นการนำเชื้อมาสู่อวัยวะเพศโดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรีย
4.ไม่ใส่ชุดชั้นในที่รัดแน่นเกินไป เพราะจะทำให้อวัยวะเพศอับชื้น ไม่ระบายอากาศ เกิดเชื้อราตามมา รวมทั้งไม่ใช้ชุดชั้นใน ผ้าเช็ดตัวร่วมกับคนอื่น
5.เพื่อเป็นการปรับสมดุลกรด-ด่างที่ช่องคลอด ควรเสริมการรับประทานโยเกิร์ต หรือนมเปรี้ยว และงดการรับประทานของหมักดองในช่วงที่มีอาการตกขาว เพราะมันจะส่งเสริมให้ร่างกายมีสภาวะเหมาะกับการเติบโตของเชื้อโรคต่างๆ
ที่สำคัญงดพฤติกรรมการเปลี่ยนคู่นอน เพราะอาจเกิดได้จากทั้งเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือโปรโตซัว หากมีอาการตกขาวที่ผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อที่จะได้รักษาได้ถูกทาง