สาเหตุของฟันผุส่วนใหญ่มาจากการกินขนม ลูกอม ช็อกโกแลตหรือของหวาน ๆ ไม่เพียงแค่ปัญหาลูกติดหวานจนทำให้ฟันผุเท่านั้น หากแต่ทานอาหารที่มีรสชาติหวานในปริมาณมากๆ และบ่อยเกินไป จะเป็นตัวการสำคัญที่ค่อยๆ ทำลายสุขภาพของลูกน้อยที่จะส่งผลทำให้เกิดฟันผุเรื้อรัง ผลเสียคือจะทำให้เกิดแบคทีเรียและคราบน้ำตาลหลงเหลืออยู่ในช่องปากหลังจากทานขนมหวานต่างๆ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาฟันผุตามมา มาดู 5 วิธีดัดนิสัยเด็กๆ ติดหวานกันดีกว่า
1.จำกัดปริมาณขนม
คุณแม่ต้องเริ่มต้นด้วยมาตรการจำกัดปริมาณของหวานที่ควรได้รับในแต่ละ และต้องควบคุมให้ได้ตามกำหนด โดยอาจให้ลูกกินขนมได้ 1 อย่างในหนึ่งมื้อ หรืออนุญาตให้กินหลังเลิกเรียนเท่านั้น
2.อย่าให้ของหวานเป็นรางวัลกับลูกบ่อยๆ
คุณแม่อาจจะเปลี่ยนวิธีการให้รางวัลแก่เด็กๆ จากการให้ขนม หรือของหวาน ๆ ไปเป็นการทำกิจกรรมที่เด็กๆ ชอบ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว รวมทั้งเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการด้านอื่นให้เด็กๆ อีกทาง
3.ค่อยๆ ปรับพฤติกรรมการกินหวาน
ลองปรับพฤติกรรมบางอย่างของเด็กๆ ทีละน้อย เพื่อสร้างนิสัยใหม่ หรือจะใช้วิธีให้รับประทานผลไม้ที่มีรสชาติหวาน แทนของหวาน หรือฝึกให้เด็กๆ ดื่มน้ำเปล่าคู่กับมื้ออาหารหลัก รวมทั้งการเปลี่ยนนมรสหวานมาเป็นนมรสจืด ซึ่งดีต่อสุขภาพ แน่นอน
4.ดูแลสุขภาพฟันหลังทานของหวาน
ฟันของเด็กๆ เคลือบฟันยังไม่แข็งแรงพอที่จะปกป้องฟันจากการทำลายของกรดน้ำตาลหลังรับประทานของหวาน ทำให้การดูแลสุขภาพฟันหลังรับประทานของหวานจึงเป็นสิ่งจำเป็น นอกจากบังคับให้เด็กๆ แปรงฟันหลังรับประทานอาหารทุกครั้งแล้ว วันไหนเด็กงอแงก็ลองเปลี่ยนเป็นการกลั้วปากด้วยน้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์หลังทานของหวานก็ได้
5.เลือกน้ำยาบ้วนปากที่เหมาะสำหรับเด็ก
ควรเลือกน้ำยาบ้วนปากที่มีรสชาติที่อ่อนโยน ไม่รุนแรง ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ แต่ควรมีฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุและจะต้องเลือกให้เหมาะสำหรับเด็กๆ โดยเด็กตั้งแต่ 6 ขวบขึ้นไปจึงจะสามารถกลั้วปากได้เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ อาจเลือกแบบที่มีฟลูออไรด์จะช่วยให้ฟันแข็งแรงขึ้น 2 เท่า ซึ่งจะช่วยปกป้องฟันเด็กๆ จากการเกิดฟันผุได้อย่างมั่นใจ