วัยทอง หรือวัยหมดประจำเดือน ส่วนใหญ่สาว ๆ จะเริ่มที่อายุ 49-52 ปี อาการของคนวัยทอง คือ หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน นอนหลับไม่สนิท บางรายอาจมีอาการซึมเศร้า ส่วนใหญ่จะเป็นตั้งแต่วัยใกล้หมดประจำเดือน ซึ่งอาการต่าง ๆ เกิดจากฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน จึงส่งผลต่ออารมณ์และร่างกาย นอกจากนี้ยังอาจมีอาการปวดศีรษะเรื้อรัง ร้อน ๆ หนาว ๆ ซึ่งสิ่งที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของวัยทองได้คือ การหลีกเลี่ยงอาหารที่จะก่อให้เกิดอาการต่างๆ มีอะไรบ้างมาดูกัน??
ควรลดอาหารเค็ม ๆ อย่างของหมักดอง ซีอิ๊ว น้ำปลา เครื่องปรุงรส เพราะอาหารเหล่านี้เต็มไปด้วยโซเดียม เมื่อร่างกายได้รับสารโซเดียมมากไปจะขับแคลเซียม ออกมาทางปัสสาวะ ส่งผลให้ร่างกายขาดแคลเซียมซึ่งจะก่อให้เกิดโรคกระดูกพรุน และกระดูกหักได้ง่าย
เนื้อสัตว์ใหญ่อย่างพวก เนื้อหมู เนื้อแกะ เนื้อวัว เป็นโปรตีนย่อยยาก หากรับประทานในตอนเย็นจะทำให้อึดอัด นอนไม่หลับ ท้องอืด ซึ่งไขมันในเนื้อสัตว์กลุ่มนี้ยังเป็นไขมันอิ่มตัวทำให้น้ำหนักขึ้น อาจเพิ่มโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ
ไขมันกลุ่มไขมันทรานส์ จะก่อโรคทั้งหัวใจและหลอดเลือด ก่อมะเร็งแล้วยังทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น เพราะวัยทองเมื่อน้ำหนักขึ้นแล้วจะลดลงยาก ส่งผลต่อโรคเรื้อรัง ต่อโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน รวมทั้งกระดูกพรุน
ควรระมัดระวังเครื่องดื่มที่ผสมคาเฟอีน อย่างชา กาแฟ ไม่ควรดื่มในช่วงเวลาหลังจาก 15.00 น. เพราะจะยิ่งทำให้นอนไม่หลับ
ข้าวขัดขาว อาหารในกลุ่มนี้ส่งเสริมให้เกิดโรคอ้วนได้ง่าย โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคเบาหวานจะยิ่งควบคุมน้ำตาลยาก
อาหารที่ควรรับประทานในวัยทอง ควรรับประทานอาหารที่ทำมาจากถั่วเหลือง อย่างน้ำเต้าหู้ คะน้า บร็อคโคลี มันเทศ
โยเกิร์ตไขมันต่ำ ข้าวโอ๊ต เมล็ดอัลมอนด์ ไข่ไก่ ตังกุย สาหร่ายสไปรูลิน่า ส้ม แครอท แครอท ผักโขม นม ไข่แดง แอปเปิ้ล องุ่น ผักผลไม้ที่มีกากใย และดื่มน้ำเปล่าให้ได้ วันละ 8 แก้ว เป็นอาหารที่เป็นแนวทางส่งเสริมคุณภาพชีวิตของสาววัยทองให้มีคุณภาพมากที่สุด