“ถุงยางอนามัย” เป็นสิ่งหนึ่งที่คู่รักที่ยังไม่พร้อมจะมีบุตรขาดไม่ได้เมื่อต้องทำกิจกรรมบนเตียง เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์แล้ว ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และ HIV ได้มากถึง 98% เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางโรคที่ถุงยางอนามัยอาจจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนักนั่นก็คือ หูดหงอนไก่ และโรคเริมที่อวัยวะเพศ ซึ่งผู้ที่ป่วยทั้ง 2 โรคนี้สามารถแพร่เชื้อผ่านไปสู่อีกคนหนึ่งการสัมผัสทางผิวหนังได้ แม้ว่าการใช้ถุงยางอนามัยสามารถช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ส่วนใหญ่ได้ก็จริงแต่ก็ต้องใช้ให้ถูกวิธี สำหรับมือใหม่หัดสวมเพื่อป้องกันความผิดพลาด..เรามี 5 แนวทางการใช้งานของถุงยางอนามัยที่ถูกหลักมาฝากกัน
1.ควรเลือกขนาดให้เหมาะ
ควรเลือกซื้อถุงยางอนามัยให้เหมาะกับขนาดของอวัยวะเพศ และหากไม่แน่ใจว่าต้องใช้ขนาดไหน สามารถทดลองซื้อมาหลายๆ ขนาด และสังเกตความแน่นในการสวมใส่
2.ใช้หนึ่งชิ้นต่อครั้ง
ไม่ควรสวมถุงยางอนามัยเกินสองชิ้นต่อการใช้ 1 ครั้ง เพราะอาจทำให้ถุงยางอนามัยเสียดสีกันจนทำให้ขาดได้ง่าย ซึ่งควรใช้ถุงยางอนามัย 1 ชิ้นต่อ 1 ครั้งให้เสร็จแล้วทิ้งทันทีห้ามเก็บมาใช้ต่อ
3.ใช้เจลหล่อลื่นช่วย
หากกลัวฝืดสามารถใช้สารหล่อลื่นทาเคลือบภายนอกถุงยางอนามัยได้ ซึ่งจะทำให้การสอดใส่เป็นไปได้โดยง่ายขึ้น แต่ควรเลือกใช้ชนิดเจลดีกว่าชนิดน้ำมัน เพราะแบบน้ำมันอาจทำให้ถุงยางชำรุด หรือฉีกขาดได้
4.ควรรูดอากาศออก
ก่อนใช้ควรรูดอากาศออกจากกระเปาะของถุงยางให้หมดก่อนทำการสวม เพราะอากาศภายในถุงยางอาจส่งผลทำให้ถุงยางแตก หรือขาดได้ง่ายยิ่งขึ้น
5.อย่าปล่อยให้น้องชายอ่อนคาช่องคลอด
หลังทำกิจกรรมเสร็จ ฝ่ายชายควรถอนอวัยวะเพศออกมาก่อนที่จะอ่อนตัวคาช่องคลอด เพื่อป้องกันถุงยางอนามัยและอสุจิหลุดเข้าไปในช่องคลอดของฝ่ายหญิง
แม้จะใช้ถุงยางอนัยให้ถูกหลักอย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด หรือไม่ควรเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ หากคุณมีแฟนคนเดียว แน่นอนว่าโอกาสในการติดโรคจากเพศสัมพันธ์ก็จะน้อยลงไปด้วย